มีธุรกิจร้านเสริมสวยมากมายที่ประสบความสำเร็จที่ให้บริการกับกลุ่มประชากรขนาดใหญ่ แล้วคุณต้องทำอย่างไรเพื่อให้ร้านเสริมสวยของตัวเองประสบความสำเร็จในวงการการแข่งขันอย่างเข้มข้นนี้ บทความนี้เจ้าของเสริมสวยควรอ่านอย่างยิ่ง! ไม่เพียงแต่ทำให้ร้านอยู่รอด แต่ต้องปังและเจิดจรัสอยู่ในวงการนี้ นี่คือวิธีที่ผู้เขียนทำให้ธุรกิจของตัวเองประสบความสำเร็จได้ และคุณก็สามารถนำไปทำตามได้ง่ายๆ
1. กลุ่มลูกค้าหลัก
กลุ่มลูกค้าหลักของคุณ มีอิทธิพลต่อการเลือกทำเลที่ตั้ง ราคาค่าบริการ รวมไปถึงกลยุทธ์ในการสร้างแบรนด์ หากคุณต้องการตอบโจทย์ของกลุ่มลูกค้าที่สูงขึ้นมา ให้คุณไปตั้งร้านอยู่ในย่านที่ร่ำรวย และตกแต่งร้านให้เรียบแต่หรู และให้ดูร่วมสมัย แต่ถ้าคุณเจาะกลุ่มไปที่วัยรุ่น ก็ให้นึกถึงร้านเสริมสวยที่ให้ความสะดวกสบายและทันสมัย
หาช่องทางการตลาดเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าหลักของคุณที่พร้อมจะมาใช้บริการและหาจุดเด่นของร้านเสริมสวยคุณให้เจอ
2. ทำเลและประชากรที่อยู่อาศัย [restrict]
เลือกทำเลที่ตั้งให้เหมาะกับกลุ่มลูกค้าที่คุณจะให้บริการ อย่างเช่น ร้านเสริมสวยของคุณตั้งอยู่ในย่านที่ร่ำรวย คุณก็ต้องมีแนวโน้มที่จะให้ความสำคัญกับลูกค้าที่ร่ำรวยมากขึ้น ต้องจำไว้เสมอว่า กลุ่มลูกค้ามีหลายแบบแตกต่างกันไป คุณต้องให้การบริการและความพึงพอใจที่เหมาะสมกับพวกเขาไม่เหมือนกัน
ผู้เขียน ตั้งร้านเสริมสวยของตัวเองไว้ในห้างสรรพสินค้า ซึ่งในห้างก็จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้ลูกค้าของเราไว้อยู่แล้ว หรือการมีที่นั่งรอ อีกทั้งห้างต่างๆ จะช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงร้านของคุณได้มากขึ้น ถ้าร้านคุณออกแบบมาเพื่อรับลูกค้าที่เข้าออกได้ตลอดเวลา
3. อุปกรณ์ที่ใช้
การใช้จ่ายที่มากเกินไป อาจจะทำให้ธุรกิจของคุณเจ๊ง แนะนำให้ซื้ออุปกรณ์มือสองหรือเช่าร้านที่เคยเป็นร้านเสริมสวยมาก่อน เพราะมันจะมีอุปกรณ์ต่างๆ เตรียมไว้ให้หมดแล้วตามที่คุณต้องการใช้ เท่านี้จะช่วยประหยัดได้มาก ทางเราแค่ตรวจสอบคุณภาพของอุปกรณ์ทั้งหมดก่อนนำไปใช้เพื่อบริการลูกค้าของคุณ
4. บุคลากรของคุณ
เชื่อเถอะว่า พนักงานของคุณคือกระดูกสันหลัง หรือพูดง่ายๆ ว่า เป็นตัวหลักเป็นหน้าตาให้กับธุรกิจของคุณ ดังนั้นมันจึงไม่ง่ายเลยที่จะสรรหาและฝึกอบรมบุคลากรเหล่านี้ คุณต้องแน่ใจว่าพวกเขามาพร้อมกับใจรักในการบริการมากเท่าๆ กับคุณ หากคุณมีบุคลากรที่สกิลเข้าใจในงานบริการทั้งหมดนี้ ถือว่าเป้นเรื่องที่ดี เพราทักษะนี้ไม่ใช่ว่าจะมานั่งเจรจาหากันได้ง่ายๆ
คุณจะต้องให้ความรู้และอบรมด้านนโยบายของพนักงาน และพวกเขาต้องรู้ถึงมาตรฐานที่คุณคาดหวังจากพวกเขาด้วย ตอบแทนพวกเขาที่ทำงานหนักด้วยเงินเดือนขั้นพื้นฐานและค่าคอมมิชชั่นอื่นๆ และอีกหนึ่งสิ่งที่คุณสามารถทำได้คือ ตั้งเป้าหมายความสำเร็จของธุรกิจเสริมสวยของคุณไว้ตลอดเวลา บทบาทของคุณคือการช่วยส่งเสริมพนักงานทั้งด้านให้กำลังใจ และเป็นตัวอย่างที่ดีในการบริการลูกค้าให้พนักงานเห็น
นอกจากนี้ยังช่วยคัดพนักงานเฉพาะ ไว้สำหรับจัดการกับคลังสินค้าของร้าน เพื่อป้องกันการเกิดโจรกรรมได้
5. ลูกค้าของคุณ
การให้บริการลูกค้าเฉพาะที่ไม่เพียงพอ การบริการนั้นต้องคำนึงถึงลูกค้าแต่ละบุคคล เขามีรสนิยมและความชอบที่ไม่เหมือนกัน การบริการที่ดีและใส่ใจกับลูกค้าทุกๆ คน ทำให้ร้านของผู้เขียนมีลูกค้าประจำมากมายจนถึงทุกวันนี้ สิ่งที่ทำคือ ตั้งโปรไฟล์ของลูกค้าแต่ละคนโดยการให้บัตรสมาชิกที่มีการเก็บฐานข้อมูลของลูกค้าไว้ เพื่อทำให้แน่ใจว่า เมื่อพวกเขากลับมาใช้บริการอีกครั้ง แม้จะไม่เจอกับช่างคนเดิม แต่เขาจะต้องได้รับทุกอย่างตามที่เขาต้องการในแบบที่เคยได้
ควรจัดให้มีโปรโมชั่นสำหรับลูกค้าที่มาใช้บริการด้วย อาจจะเป็นส่วนลดสำหรับผู้อาวุโส หรือนักเรียน นักศึกษา แบบนี้จะทำให้ธุรกิจของคุณมีความมุ่งมั่นในการจัดหาสวัสดิการ และทำให้ผู้คนรู้สึกว่าได้รับการดูแลใส่ใจเป็นอย่างดี
6. เงินจะมาจากไหนบ้าง
กำหนดราคาให้เหมาะสม การกำหนดราคาที่สูงเกินไปอาจจะทำให้ลูกค้าหนีไปใช้บริการกับคู่แข่งแทน และในขณะเดียวกันถ้าตั้งราคาต่ำเกินไป ก็จะขาดทุน
ทำให้แน่ใจว่า กำไรของคุณทำให้คุณสามารถกำหนดราคาเพิ่มขึ้นได้ เก็บเปอร์เซ็นต์มากขึ้นจากค่าบริการ ในแง่ของต้นทุนที่ใช้ไปกับคลังสินค้า และในแง่ของค่าแรงแรงงานที่ใช้ไป
สิ่งสำคัญที่ควรระวัง คือปริมาณสารเคมีที่ใช้ในการบริการลูกค้า ตัวอย่างเช่น ต้องใช้ปริมาณทรีทเม้นท์เท่าไหร่ ต่อน้ำยาย้อมผมหนึ่งขวด การกำหนดปริมาณสารเคมียังช่วยให้คุณจัดการกับค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้นด้วย นี่เป็นหนึ่งเคล็ดลับที่ผู้เขียนไม่ทราบว่ามีใครเคยได้ยินมาก่อนไหม แต่มันช่วยประหยัดต้นุนไปได้เยอะมาก และทำได้อย่างเคร่งครัดด้วย
ฝากไว้ท้ายบท :
หากคุณกำลังสงสัยว่าอุปกรณ์ใดบ้างที่คุรต้องการ สำหรับร้ายเสริมสวยของคุณ ให้ไปอ่านบทความ “Essential Equipment Every Salon Owner Must Have” มีคำแนะนำเกี่ยวกับอุปกรณ์เสริมสวยต่างๆ ที่คุณต้องการ
[/restrict]