Beware of fraudulent recruiters and investment scams! They are posing as SKALE employees, and they have malicious intent. Do not engage with them. Please report these suspicious activities at hello@skale.today

3 เทคนิคง่ายๆ ที่จะช่วยให้ร้านทำเล็บของคุณได้กำไรมากขึ้น

คุณมีความแตกต่างจากคู่แข่งอย่างไรบ้าง? แล้วใครกันที่คุณคิดว่าเป็นคู่แข่ง? การใช้กลยุทธ์ในการตั้งราคาก็ไม่ใช่วิธีที่จำเป็นในการอยู่เหนือคู่แข่งเสมอไปนะ บทความนี้จะบอกเกี่ยวกับสิ่งจำเป็นในการแข่งขันและช่วยให้ร้านทำเล็บของคุณแตกต่างไปจากร้านอื่นๆ 1. ตั้งต้นทุนให้ต่ำไว้ก่อน ในฐานะเจ้าของร้านทำเล็บ ผู้เขียนยอมรับเลยว่าลูกค้าส่วนใหญ่ไม่เต็มใจที่จะจ่ายในราคาแพง หรือสูงจนเกินไป เว้นแต่ว่าจะเป็นการทำเล็บแบบเจล และสำหรับเล็บเจลเอง ลูกค้าก็ยอมจ่ายในราคาสูงแต่ไม่สูงจนเกินไป เราจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียต่อธุรกิจของเรา คำตอบคือ รักษาต้นทุนและค่าใช้จ่ายให้ต่ำไว้ก่อน ตรวจสอบให้แน่ใจว่า ระบบการจ่ายเงินเดือนของคุณไม่ใช่ระบบค่าคอมมิชชันอย่างเดียว หรือเป็นการจ่ายแบบรายชั่วโมง ถึงแม้ว่าระบบการจ่ายเงินแบบนี้จะช่วยประหยัดต้นทุนได้ก็จริง แต่มันไม่สร้างแรงจูงใจในการทำงานให้กับพนักงานของคุณเลย แถมยังลดประสิทธิภาพการทำงานของพวกเาอีกด้วย ควรใช้วิธีการให้ค่าคอมมิชชันบวกด้วยค่าจ้างรายชั่วโมง แบบนี้ช่วยทั้งประหยัดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงานได้ ราคาการให้บริการที่ต่ำกว่าทำให้ร้านทำเล็บของคุณแตกต่างไปจากร้านอื่นๆ [restrict] 2. ไปให้ไกลกว่าคำว่ามาตรฐานด้านสุขอนามัย ร้านส่วนใหญ่มักจะรักษาต้นทุนให้ต่ำไว้ โดยไม่สนใจมาตรฐานด้านสุขอนามัยเลย ซึ่งร้านเหล่านี้ไม่แข่งกันที่ราคาการบริการ แต่แข่งกันที่มาตรฐานด้านสุขอนามัยแทน ไม่ว่าลูกค้าต้องการทำเล็บที่ราคาถุกแค่ไหน พวกเขาก็ยังต้องการใส่ใจเรื่องสุขอนามัยและความปลอดภัยควบคู่ไปด้วย หากคุณโปรโมทร้านทำเล็บโดยใช้หลักปฏิบัติตามมาตรฐานด้านสุขอนามัยตามแบบที่รัฐบาลกำหนดไว้ ซึ่งต้องแลกมาด้วยค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น คุณสามารถทำให้ร้านของคุณมีการฆ่าเชื้อ สะอาดปลอดภัย อาจเป็นการฆ่าเชื้อโดยใช้ไอน้ำความดันสูงในการทำความสะอาดอุปกรณ์ มันอาจจะทำให้ค่าใช้จ่ายมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันมันช่วยส่งเสริมชื่อเสียงด้านความสะอาดปลอดภัยให้ร้านของคุณ แถมยังเรียกลูกค้าได้มากขึ้นในระยะยาวด้วย 3. โอกาสต่างๆ มีไว้ให้คว้า เปลี่ยนแปลงไปตามกระแสต่างๆ ตั้งกลยุทธ์ของธุรกิจให้มีความยืดหยุ่นเข้าไว้ จะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเพิ่มผลกำไรให้คุณได้ กระแสหนึ่งที่อยากจะพูดถึงเป็นกระแสที่สังคมกำลังจับตาดู คือ The Nail Social ในสิงคโปร์ เป็นตัวอย่างที่ดี… Continue reading 3 เทคนิคง่ายๆ ที่จะช่วยให้ร้านทำเล็บของคุณได้กำไรมากขึ้น

4 คำถามที่คุณต้องถามตัวเองก่อนจะเปิดร้านนวด

กำลังคิดถึงการเปิดร้านนวดอยู่รึเปล่า? ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะตัดสินใจและผู้เขียนมั่นใจว่าคุณได้พิจารณาและศึกษาธุรกิจมาเป็นเวลานานแล้ว และตอนนี้คุณกำลังอยู่ในขั้นตอนการตัดสินใจ ก่อนอื่น ถามคำถาม 4 ข้อนี้กับตัวคุณเองก่อนจะเริ่มการเดินทางในธุรกิจสายนี้ 1. สถานที่ให้บริการ ธุรกิจนวดมีหลายประเภท มีธุรกิจไปนวดถึงที่ ซึ่งส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในบ้านหรือมีห้องนวดที่เช่าไว้ หากคุณกำลังวางแผนดำเนินกิจการนวดที่บ้าน คุณจำเป็นต้องไปแจ้งการพัฒนาที่อยู่อาศัยตามกฎหมายในประเทศของคุณ รวมถึงผู้ให้บริการประกันภัยกับคุณด้วย คุณต้องทำงานท่ามกลางเพื่อนบ้าน ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดปัญหาได้ แล้วคุณจะแยกชีวิตส่วนตัวกับชีวิตทำงานอย่างไร? ในเมื่อการบริการกลายมาเป็นหัวใจสำคัญของบ้านคุณ ในขณะที่วางแผนจะเช่าพื้นที่ ก็ควรจะเลือกสถานที่อยู่ในห้างสรรพสินค้า หรือพื้นที่ที่เป็นส่วนตัวมากขึ้นอย่าง ตึกแถว อยู่ที่ว่าคุณอยากได้สถานที่ที่มีคนเดินผ่านไปมาหรือที่ที่เงียบสงบ ก็แล้วแต่ชอบ 2. คุณเต็มใจจะจ่ายในราคาเท่าไหร่ ต้องมาเลือกอีกว่า คุณจะซื้ออุปกรณ์เหล่านี้จากผู้จำหน่ายรายเดียว เพื่อรับส่วนลดเมื่อซื้อทีเยอะๆ หรือ จะสั่งซื้อจากผู้จัดจำหน่ายหลายๆ ราย เพื่อให้ได้ของที่มีคุณภาพที่ดีที่สุด ที่สำคัญที่สุดอยู่ที่เงินของคุณ คุณพอใจที่จะลงทุนกับบริการนวดมากน้อยเท่าไหร่ในช่วงไม่กี่เดือนแรกของการดำเนินงาน ต้องมาเลือกอีกว่า คุณจะซื้ออุปกรณ์เหล่านี้จากผู้จำหน่ายรายเดียว เพื่อรับส่วนลดเมื่อซื้อทีเยอะๆ หรือ จะสั่งซื้อจากผู้จัดจำหน่ายหลายๆ ราย เพื่อให้ได้ของที่มีคุณภาพที่ดีที่สุด ที่สำคัญที่สุดอยู่ที่เงินของคุณ คุณพอใจที่จะลงทุนกับบริการนวดมากน้อยเท่าไหร่ในช่วงไม่กี่เดือนแรกของการดำเนินงาน 3. เข้าถึงลูกค้าได้ยังไงบ้าง [restrict] การสร้างสถานะตัวตนของธุรกิจคุณบนโลกดิจิทัล (Digital Presence) เป็นสิ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยในยุคนี้ คุณจะพึ่งพาเว็บไซต์ หรือการเปิดเพจบน Facebook… Continue reading 4 คำถามที่คุณต้องถามตัวเองก่อนจะเปิดร้านนวด

6 นิสัยที่เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กควรพัฒนา

หบัวจากหลายปีมานี้ตั้งแต่เราเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม ผู้เขียนมองว่าการเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กที่ประสบความสำเร็จ ไม่เพียงแต่การใช้ความอดทนและการทำงานหนัก แต่ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกมากที่ส่งผลต่อการเป็รผู้นำที่มีคุณภาพ ซึ่งลักษณะนิสัยต่างๆ ที่กำลังจะกล่าวถึงด้านล่างนี้ ทำให้ผู้เขียนกลายเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กในแบบที่ต้องการ และหวังว่าสามารถช่วยให้ทุกคนนำไปใช้ได้เช่นกัน 1. มองการไกลอยู่เสมอ การวางแผนล่วงหน้าถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง สำหรับผู้นำการจะก้าวไปข้างหน้าต้องเป็นคนที่โง่พอ และมองอนาคตเป็น ที่จะคิดนอกกรอบ หาทางออกของธุรกิจในวิธีการต่างๆ อาจจะเป็นการกล้าที่จะเสี่ยงลงทุนในเรื่องที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน เสี่ยงไปกับเทรนด์ของตลาดที่ได้รับการพิสูจน์แล้วหรือเป็นตลาดใหม่ๆ ความเสี่ยงดังกล่าวทำให้ธุรกิจของคุณไปในทางที่โดดเด่นมีความแปลกใหม่ 2. ต้องเป็นคนเด็ดขาด ไม่โลเล พวกเราทุกติดอยู่กับการตัดสินใจเรื่องต่างๆ ในทุกวัน ตั้งแต่การดำเนินงานในชีวิตประจำวัน ไปจนถึงการตัดสินใจในวงกว้างที่ส่งผลต่อทิศทางของบริษัท และไม่ว่าผลกระทบจะเป็นอย่างไรสิ่งสำคัญคือคุณต้องหนักแน่น มั่นใจในแผนการของตัวเอง ถ้าคุณลังเลหรือไม่มั่นใจในตัวเอง พนักงานของคุณก็จะสังเกตเห็นด้วยเช่นกัน และพวกเขาจะไม่ค่อยมั่นใจกับทิศทางใหม่ที่คุณตั้งขึ้นมาอีกแล้ว การตัดสินใจต่างๆ ต้องได้รับการพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ด้วยที่ปรึกษาที่เหมาะสม เมื่อได้ที่ปรึกษาที่ดีแล้ว ที่เหลือก็แค่ใช้ความมั่นใจของคุณเป็นกุญแจสำคัญ 3. จัดการอย่างเป็นระบบ [restrict] สำหรับเจ้าของธุรกิจเล็กๆ แน่นอนว่าในทุกๆ วันพวกเขาคงมีไอเดียในการทำธุรกิจเป็นพันๆ ไอเดียอยู่ในหัว ซึ่งไอเดียสร้างสรรค์ที่มากมายเหล่านี้จะเป็นประโยชน์มากหากมีการจัดระเบียบความคิดที่เป็นระเบียบ การจัดระเบียบก็ง่ายๆ ให้คุณจดบันทึกความคิดต่างๆ และตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณปฏิบัติตามไอเดียเหล่านั้น ไม่ว่าจะด้วยการประชุม ถกเถียง และกำหนดระยะเวลาเพื่อให้เป้าหมายนั้นๆ สำเร็จ 4. มีสายตาที่มองเกมขาด การเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กช่วยให้คุณได้ประโยชน์จากการคลุกคลีหรือลงไปจัดการงานต่างๆ ด้วยตัวเอง… Continue reading 6 นิสัยที่เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กควรพัฒนา